รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เยี่ยมชม “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” สุดยอดประสบการณ์ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ผสานแสง สี เสียง กับเสน่ห์อาหารท้องถิ่น
10 กรกฎาคม 2568
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เยี่ยมชม “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” สุดยอดประสบการณ์ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ผสานแสง สี เสียง กับเสน่ห์อาหารท้องถิ่น
วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ และคณะผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมเยี่ยมชมงาน “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” ซึ่งจัดขึ้น ณ พื้นที่สำคัญต่าง ๆ ในเขตเมืองอุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในช่วงกลางคืน พร้อมยกระดับอัตลักษณ์ของท้องถิ่นผ่านเทคโนโลยีแสง สี เสียง และรสชาติแห่งอาหารท้องถิ่น
งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้แนวคิด “วิจิตรแสงศรัทธา เมืองธรรมรุ่งเรือง” ผสมผสาน 2 เสน่ห์จากแคมเปญ 5 Must Do in Thailand ได้แก่ Must See และ Must Taste ถ่ายทอดเรื่องราวของศรัทธา วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านศิลปะร่วมสมัย พร้อมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่น่าจดจำ
รัฐมนตรีสรวงศ์ กล่าวว่า “งานนี้ถือเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวในยุคใหม่ ที่ไม่ได้เน้นแค่แหล่งท่องเที่ยวในช่วงกลางวันเท่านั้น แต่ยังเน้นสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างในยามค่ำคืน ผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น วัฒนธรรม และนวัตกรรมร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยในปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ให้เดินหน้าอย่างมีพลัง”
“VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” จัดแสดงแสงสีตามจุดสำคัญของเมืองอุบลราชธานีรวมทั้งสิ้น 11 จุด อาทิ
จุดไฮไลต์ “แสงสุปัฏ - ธรรมบูชาแห่งอุบล” ณ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
“แสงเทียนศรีอุบล รวมใจศรัทธา” ณ อภิมหาเทียนพรรษา ทุ่งศรีเมือง
“หอธรรมเรืองรอง ทองแห่งธรรม” ณ วัดทุ่งศรีเมือง ฯลฯ
พร้อมกิจกรรมการแสดงดนตรี ออกร้านอาหารท้องถิ่น ณ บริเวณศาลหลักเมืองอุบลราชธานี โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7–16 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00–23.00 น. (เฉพาะกิจกรรมจำหน่ายอาหารและดนตรี จัดถึงวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 15.00–22.00 น.)
ททท. คาดว่า งานนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 450,000 คน (ชาวไทย 449,200 คน และชาวต่างชาติ 800 คน) และก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 1,200 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพของ “แสงแห่งศรัทธา” ที่สามารถต่อยอดเป็น “ศิลป์แห่งชีวิต” ผ่านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน